สมาคมพระเครื่องหากินอยู่บนความเชื่อของคนก็ไม่ต่างจากผู้ที่รับจ้างจับพระหรอกครับ หากจะว่าการจับพลังงานพระเครื่องมีจริงหรือไม่มีจริง ผู้พูดหรือผู้ให้ความเห็นก็ควรที่จะเป็นผู้ที่มีสมาธิจิตระดับเดียวกับผู้ที่อ้างตนว่าสามารถจับพลังงานพระได้เสียก่อน โดยส่วนตัวแล้ว ต้องลองปฏิบัติดูครับ จะรู้ว่าทำได้หรือทำไม่ได้ แต่การทดลองปฏิบัตินั้นคงไม่ใช่นั่งสมาธิแค่เพียงวันหรือ สองวัน มันต้องใช้เวลานานพอดู กว่าจะรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้หรือไม่อย่างไร ท้ายที่สุดแล้วเชื่อตัวเองดีที่สุดครับ เชื่อว่าพระองค์ไหนดี ห้อยแล้วสบายใจ ก็ห้อยกันไป เพราะที่สุดแล้วก็หนีไม่พ้นกรรมหรอกคร๊าบท่าน ๆ ทั้งหลาย
พระเครื่องต่างฯนั้นมีไว้เป็นพุทธานุสสติครับ ภาษาชาวบ้านเรียกง่าย คือมีไว้ป้องกันการตาย ก่อน ที่จะถึงเวลาอันควรที่จะตายครับ กฏแห่งกรรมย่อมทำหน้าที่ของมันเสมอ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฏแห่งกรรม ยังมีพระกรรมฐาน และ การอโหสิกรรม ครับ
วิทยาศาส ก็คือการทดลองซั้าไปซั้ามา ผิดๆถูกๆ ผิดเขาก็ว่าเขาถูก ถูกเขาก็ว่าถูก ไม่น่าเชื่อถือแค่การทดลอง มาหลังพระพุทธศาสนาอีกเราไม่ต้องลงทุนอะไร เขาลงทุนซั้าไปซั้ามาสิ้นเปลืองมากก่าเรา เราแค่นั่งก็ได้ละ ถือศีล ไม่ต้องไปทำให้ไครเดือดร้อนเพราะทดลองบ้าๆพวกนี้
อย่าเพิ่งไปเชื่ออะไรง่ายนั่นแหละ ถือว่าดีที่สุด ถ้าเราเปนคนแท้แล้ว เอาอะไรมาแขวนก้เปนของแท้ตามไปด้วย เหนืออิทธิฤทธิ ก้คือบุญญฤทธิ์ แต่บุญฤทธิก้ยังอย่ภายใต้กฏแห่งกรรม แต่ถ้าอยากได้ของแท้จริง ก้ต้องให้เซียนพระดูรอยตำหนิของเนื้อผิว หรือให้คนที่มีตาทิพย์ หรือได้วิชา เหนหนอ ส่องปรจิตเข้าไป ก้จะร้ว่า จริงหรือปล่าว..... แต่ถึงยังไงๆ ก้ควรจะเช่าพระที่ราคาถูกๆไว้บูชา จึงจะดีและเหมาะสม พุทธานุภาพของพระพุทธเจ้า ไม่ได้มีอย่เพียงแค่ในความขลังที่ได้จากการปลุกเสกหรือทำพุทธาภิเษกเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับกุศลกรรมบถ10 ของคนผู้นั้นด้วย