"เจ้ายอด อกตัญญู" (หลวงปู่จันทา ถาวโร)

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย วิริยะ13, 24 เมษายน 2025 at 04:57.

  1. วิริยะ13

    วิริยะ13 สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    3,136
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,593
    ค่าพลัง:
    +12,767
    หลวงปู่จันทา ถาวโร.jpg

    .
    "เจ้ายอด อกตัญญู"

    " .. ผมอยู่กับ หลวงปู่ขาวนะ ไปปฏิบัติท่านตอนเช้า ท่านบอกว่า "อันนี้แหละ เจ้ายอดอกตัญญู" ท่านว่าอย่างนั้น "ผมก็ยังไม่รู้พูดแล้วพูดเล่า" ผมก็เลยถามว่า ..

    "ใคร .. หลวงปู่ ที่เป็นเจ้ายอดอกตัญญู ผมหรือเปล่า" หลวงปู่ขาว ก็ว่า "อยากรู้ไปภาวนาดู คนอื่นหรือเรา ก็ภาวนาไป"

    ผมก็ตั้งใจภาวนา "อดนอนผ่อนอาหารดลอดไตรมาส ๓ เดือน นั่นแหละ ปีที่จะรู้นั้นเป็นปีที่ ๕ นะ ทำอยู่ ๕ เดือน" เดือนแรกก็ยังไม่รู้ "เดือน ๒ เดือน ๓ จึงรู้" ...

    ทีนื้ก็เจริญมรรคให้สมบูรณ์ "เดินจงกรม ภาวนา ยืนภาวนา อดนอนผ่อนอาหาร" ไหว้พระ สวดมนต์ "นั่งสมาธิ ภาวนา พิจารณาธาตุขันธ์ น้อมลงสู่ไตรลักษณ์ เห็นแจงประจักษ์" ... ไม่นานจิตก็รวมใหญ่ลงสู่ภวังคภพอันแน่นแฟัน คือ "อุปจารธรรม"

    พอลงถึงฐานนั่นแล้ว "ก็มาเพ่งพิจารณา เกิดทุกข์ แก่ทุกข์ เจ็บทุกข์ ตายทุกข์ ถึงบทบาทตายนั่นแหละ" ตายพึ้บลงต่อหน้า พอเห็นตายแล้วก็เพ่ง "เห็นอืดพองเปื่อยเน่า เหลือแต่ร่างกระดูก เพ่งเอาไพ่เผาพึ้บมันก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง นานเข้าก็ผุกร่อนสาบสูญ" ... ว่าง

    ผู้รู้พูดขึ้นมาว่า "จิตดัง ทันตัง สุขะมาวะหาติ" จิตมาถึงขั้นนี้เป็นสุข "แต่ยังเป็นโลกียสุขนะ ไม่ใช่ทางพันทุกข์" จิตพูดอย่างนั่น นั่นแหละ "ทำอย่างไรจึงจะได้สุขกว่านี้อีกทำไปอีก"

    นั่นแหละ "ขั้นนี้ละเอียดแทั ถ้าโง่เขลาแล้วไปไม่รอด เพราะจะหยุด" อยู่เพียงแค่นั่น นั่นแหละ หนักเข้าก็พิจารณา ถามผู้รู้อีกว่า "เจ้ายอดอกตัญญู คือใคร"

    ผู้รู้ก็พูดขึ้นมาเองนะ "โอ .. เจ้ายอดอกตัญญู ที่หลวงปู่ขาว พูดวันนั่น ก็ได้แก่กายนี้แหละ เจ้ากายนี่เป็นเจ้ายอด อกตัญญู" ไม่รู้บุญคุณของใครทั้งนั่น จะเป็นผู้ดีมีหนัา ทุกข์จนค่นแค้นแสน กันดารทั่วหน้า

    "จะถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูปูเสื่อ" ให้อยู่เย็นเป็นสุข ทั้งวันคืนแล้ว "ก็เป็นคนอกตัญญูอย่างนั่น ไม่มีเวทิตาธรรม ตอบแทน แบ้แต่นิดหนึ่ง มีแด่นำของที่ชั่วช้าลามก เนื้อเหี่ยวหนังเป็นเกลียว มาให้ ผมหงอก แก้มตอบ ฟันหักมาให้" นั่นแหละ ทุกอย่าง

    "นำแต่ของที่ไม่ดีมาให้" มากระแทกแดกดันให้เจ็บปวดร้าวไปทั่วกาย "เจ็บแข้ง เจ็บขา เจ็บตา เจ็บหู นำแต่ของไม่คีมาให์นั่นแหละ ทำลาย อยู่เป็นนิจ" ถึงเราจะใหัสุขอยู่ทั้งวันคืน แด่แล้วเขาก็ไม่ดีทั้งนั้น "ไม่มีความปราณีหายโกรธยกโทษใครแม้แต่นิดหนึ่ง" ทั้งนั้น

    นี่แหละ "จงรู้มายาสาไถย์ของเจ้ายอดอกตัญญู นักปราชญ์ ท่านผู้รู้ คือ หลวงปู่ขาว ท่านรู้แล้ว ท่านได้แล้ว ท่านจึงมาพูด" เป็นปัญหาสอนเราคือคนโง่ "ก็เราคนโง่เง่าเต่าตุ่นไม่รู้อะไร เพราะขาดความเพียร ขาดความอดทน ขาดความชนะตน" นั่นแหละ ทำไม่ได้

    "หลงถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูลูบ ๆ คลำ ๆ เจ้ายอดอกตัญญู อยู่อย่างนั้น" ปู่ย่าตายายพ่อแม่ของเราไปแล้วไม่ใช่หรือ ไปแล้ว "ท่านก็ได้บุคคลยอดอกตัญญูทั้งนั้น" ปู่ย่าตายายก็ดี "ท่านก็ทำไร่ ทำนา ค้าขาย แดดก็ไม่บ่น ฝนก็ไม่ว่า" คาไม่ยืน คืนไม่อยู่

    "ขวนขวายถนอมกล่อมเกลี้ยงอย่างนั้น ฟ้าจะผ่า ห่าจะกินก็ตามที ท่านก็ไม่หวั่นไหว" หาข้าวปลาอาหารทุกอย่างมาถนอมกล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูปูเสื่อ "แต่แล้วเจ้ายอด อกตัญญูก็เป็นอย่างนั้น" ให้ม้นรู้เสีย นั้นแหละ "ทำอย่างไร จึงจะพันไปได้"

    "ก็ทำความเพียรนี่แหละ จะรอดพันจากอำนาจของเจ้า ยอดอกตัญญูไปได้" ในขณะนั้น ก็นัอมจิตเข้าผู้รู้ เห็นจริงแจ้งชัด ถามผู้รู้อีกว่า "จะไปหรือจะอยู่ จะรู้หรือจะหลง ภาระหนักเจ้ายอดอกตัญญูนั่น" จะอยู่ไปอีกด้วยหรือจะหยุดเพียงแค่นี้ ผู้รู้ก็ว่า "หยุดแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว สู้ไม่ไหว" .. "

    "หนังสือ ๘๖ ปี"
    (หลวงปู่จันทา ถาวโร)
     

แชร์หน้านี้

Loading...