เราเคยได้ยินคำว่าสังคมเสื่อมลงทางสื่อต่างๆ แต่มีใครหยุดคิดไหมว่ามันใกล้ตัวเรามากๆ เด็กไทยสมัยนี้ ก็แก่แดดขึ้นทุกวัน ไร้สัมมาคาราวะกับผู้ใหญ่ นิยมวัตถุและให้ความสำคัญกับเรื่องเพศตรงข้าม มากกว่าการใฝ่หาความรู้ และ มองอนาคตที่ดีของตนเอง ส่วนตัวผมเชื่อว่าร้อยละ 75 เด็กไทยมีแนวโน้มเป็นอย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น ทำไมผมถึงเห็นว่าอนาคตของเด็กชาติร้อยละ 75 มีพฤติกรรมตามที่ผมกล่าวไว้ เพราะเห็นมาจากสายตาของผมเองที่ได้พบเห็นตามการดำเนินชีวิตประจำวัน (หรือเด็กดีๆ จะเก็บตัวเงียบไม่ออกมาให้สังคมได้เห็นหน้าคาดตา) ถ้ามีใครมองว่าเด็กไทยร้อยละ 75 จับกลุ่มกันเข้าวัด ทำบุญ ขยันหาความรู้ในห้องสมุดต่างๆ จะมาตอบกระทู้แย้งผมก็ได้ เพราะกระทู้นี้ผมไม่ได้ต้องการจะจูงใจผู้คนที่มาอ่าน แค่นำเสนอในมุมมองของผม ผมอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งนึงใน กทม. แถวที่พัก มีอู่รถมอเตอร์ไซค์จะมีเด็กๆ วัยรุ่นเอารถมอเตอร์ไซค์ไปแต่งให้เสียงดังๆ แล้วทดสอบเสียงโดยการวิ่งในซอยที่ผมพัก สร้างความรำคาญใจมาก เป็นแบบนี้เกือบทุกวัน (ไม่ทราบว่าเค้าไม่พักวิ่งรถแล้วไปเรียนกันบ้างหรือไร), ปากซอยมีตลาดนัดค่อนข้างใหญ่ เด็กวัยรุ่น (หญิงสาว) แต่งกายนุ่งสั้นออกมาเดินจับจ่าย บอกตรงๆ ผมชอบมองต้นขาพวกเธอเหมือนกัน แต่จิตใจด้านดีผมก็ยังมองว่าแฟชั่นแบบนี้ไม่รู้จะไปเห่อตามทำไม โดยเฉพาะดาราในทีวีที่นิยมแต่งโป๋เป็นแบบอย่าง นักข่าวไม่ควรนำเสนอข่าวของดาราพวกนี้เลย ขอบ่นต่ออีกนึดนึง ผมเห็นเด็กๆ สมัยนี้นิยมเข้าห้างฯ เพื่อซื้อเสื้อผ้า หรือสินค้าฟุ่มเฟือย ทำไมผู้ปกครองพวกเด็กๆ เหล่านี้ถึงร่ำรวยกันนัก จึงมีเงินให้บุตรหลานมาช้อปปิ้งซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยถึงหลักร้อยหลักพัน บางคนแค่ช้อปปิ้งไม่พอ ยังเข้าไปทานอาหารในร้านฟาสฟู๊ดที่มีราคาอาหารแพงทีเดียวสำหรับคนวัยทำงานอย่างผม (สมัยผมเรียนคงต้องกลับไปกินข้าวบ้าน อยากได้อะไรก็ต้องเก็บเงินเอง) อ่อ... นอกจากนี้พวกร้านขายเครื่องสำอางราคาแพงๆ ผมก็เห็นเด็กมีเงินไปซื้อนะ มันเกินความจำเป็นไปหรือเปล่า ถ้ามีใครมาด่าผมว่าเครียดไปหรือป่าว ผมจะขอมองข้ามไป แต่ถ้ามีใครรู้สึกแบบผม อยากมาแบ่งปันความคิดเห็น ผมก็จะยินดีอ่าน ขอบคุณครับ ปล. ไม่ทราบว่าตั้งกระทู้ถูกห้องหรือไม่?
อยากถามจขกท.ว่า ท่านอายุสักเท่าไร? เพราะการมองชีวิต บางครั้งก็อยู่ที่ช่วงวัยของแต่ละคน ถูกมั้ย? สังคมเสื่อมลงจริงๆ เหมือนที่ท่านว่า บางทีมันอาจเป็นไปตามกาลก็ได้นะ(เคยอ่านพุทธทำนายมาน่ะ เลยรู้สึกเฉยๆปลงๆ กับสังคมปัจจุบัน) ต้องทำใจ...
มันขึ้นอยู่ว่า เรามองสังคมด้านไหน แล้วเราอยู่กับสังคมชนิดไหน ร้อยละ75ที่คุณว่า อาจเป็นเพราะคุณคาดเดาจากสิ่งที่คุณเห็น ซึ่งอาจจะ คับแคบเกินไปตามวิสัยที่เรามอง แต่ถ้าเราเปิดใจกว้างมองให้ กว้างกว่านี้ 1.เราขยันไปวัด-ร้านเหล้า-ผับ-มูลนิธิ-ที่ปฏิบัติธรรม และอื่นๆ มากน้อยแค่ไหน 2.เราเข้าหาสังคมหรือหากัลยาณมิตรแบบไหน 3.ในรอบ3-5ปีนี้ คุณเคยตื่นตี4-5 มาหุงข้าวเอง รอพระใส่บาตรหน้าบ้าน แล้วทำสักกี่ครั้งไหม บางทีในตัวของเราเองนั้นแหละ อาจจะเสื่อมไปพร้อมๆกับสังคมที่กำลังจะแย่ลง แต่เรามักจะมองข้ามตัวของเราเองว่า ซึ่งแท้จจริงแล้ว ตัวเราเองนั้นแหละ ก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ สังคมเราเสื่อมได้เช่นกัน ถ้าสังคมถ้ามีตัวเสื่อมถึงร้อยละ75 แสดงว่าสังคมนั้น ไม่ต่างอะไรกับ โลกแห่งกลียุค ผมเชื่อตามความเห็นของผมว่า จิตเราไปยึดมั่นสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาหาตนเอง และยึดติดกับภาพที่ เสื่อม-ถอย นำมาเป็นอารมณ์ใน อุดมคติ ง่ายกว่า การจดจนสิ่งดีๆที่สังคมมีอยู่ ผมพูดในภาพรวมที่สังคมกำลังเป็นอยู่นะครับไม่ได้ กล่าวว่า จขกท แต่อย่างไร
ผมก็มองอย่างคุณเนี่ยแหละ และผมก็ไม่ได้มีอายุเยอะสักเท่าไรด้วย ผมมองว่า สังคมส่วนใหญ่มักถูกขับเคลื่อนด้วยกระแสน่ะ ถ้าไม่สมัครใจตามกระแสไปเอง ก็ถูกซัดจนไหลไปกับเขาด้วย ผมคิดว่าเป็นเรื่องของจริตส่วนตัวและความเข้มแข็งของใจน่ะครับ ถ้าไม่ตามไป ก็หาจุดยืนที่มั่นคง หรือทวนมันไปเลย สิ่งที่เป็นสมัยนิยม บางสิ่งบางอย่างก็ถ่ายทอดกันไปในสังคมผ่านการเลียนแบบโดยไม่ใช้สมอง เพียงเพราะเห็นว่า "ชนหมู่มากบอกว่าดี" ก็เท่านั้น ก็จะกลายเป็นสังคมของคนที่ไร้คุณภาพ สูญเสียจุดยืนของตัวเอง และต้องไหล ติดพัน วนเวียนไปกับกระแส แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นอะไรที่ไม่ดีไปเสียทีเดียว สิ่งที่ทำตามเพราะมันดีก็มีอยู่ โดยสรุป, ผมก็ช่างมัน เพราะ มันก็เป็นอย่างนั้น และเราก็ไม่ต้องไปเป็นอย่างคนอื่นก็ได้ เพราะเราก็รู้ผิดชอบชั่วดี
สังคม กดดัน ต้องการในสิ่งที่เลิศ แต่ไม่รู้จักตัวเอง คาดหวังสูง ..... เป็นบ่อเกิดแห่งปัญหาต่างๆ โรคร้าย ในเมืองใหญ่ก็คือโรคเครียด กับโรคฟุ้งเฟือ ..... โรคแฟชั่น โรคต้องนำสมัย สุดท้าย.....จบลงที่ฆ่าตัวตาย ถ้าไม่ได้ดังใจหวัง...แบบญี่ปุ่น เป็นผู้นำทุกเรื่อง แต่ประชาชนส่วนใหญ่จิตใจอ่อนแอ ..ไม่รู้จักประมาณตน (เมืองอื่น ก็เป็น แต่ญี่ปุ่นหนักสุด)