ข่าวดีสำหรับ ผู้มีเลือดกรุ๊ป A+ ท่านมีโอกาส ทำบุญ มหากุศล ด้วยการบริจาคโลหิต แด่ องค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ (อายุ 104 ปี) วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี มุกดาหาร โดยแจ้งความจำนง ณ หน่วยที่รับบริจาคโลหิต ระบุว่า.. “ ขอบริจาคโลหิตให้แก่ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต 1. มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป 2. อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์ ( ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี) 3. มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่อยู่ระหว่างไม่สบายหรือรับประทานยาใดๆ 4. ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือติดยาเสพติด 5. สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์หรือ ให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต -นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในเวลาปกติคืนก่อนวันบริจาค -รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และยาธาตุเหล็กเพิ่ม -รับประทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากจะทำให้สีของพลาสมาผิดปกติเป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้ -ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มเหลวเพิ่ม เช่น น้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย จะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน เช่น มึนงง อ่อนเพลีย หรือวิงเวียนศีรษะภายหลังบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน -งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาค -งดสูบบุหรี่ ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี ขณะบริจาคโลหิต -สวมใส่เสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกินไป สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้อย่างน้อย 3 นิ้ว -เลือกแขนข้างที่เส้นโลหิตดำใหญ่ชัดเจน ที่สามารถให้โลหิตไหลลงถุงได้ดี ผิวหนังบริเวณที่จะให้เจาะ ไม่มีผื่นคัน หรือรอยเขียวช้ำ ถ้าแพ้ยาทาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า -ทำตัวตามสบาย อย่ากลัว หรือวิตกกังวล -ไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออมลูกอมขณะบริจาคโลหิต -ขณะบริจาคควรบีบลูกยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้โลหิตไหลได้สะดวก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น วิงเวียน มีอาการคล้ายจะเป็นลม อาการชา อาการเจ็บที่ผิดปกติ ต้องรีบแจ้งให้พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้นทราบทันที -หลังบริจาคโลหิตเสร็จเรียบร้อย ห้ามลุกทันที ให้นอนพักสักครู่จนกระทั่งรู้สึกสบายดี จึงลุกไปดื่มน้ำ และรับประทานอาหารว่างที่จัดไว้รับรอง หลังบริจาคโลหิต -ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1-2 วัน -หลีกเลี่ยงการทำซาวน่า หรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ งดใช้กำลังแขนข้างที่เจาะ รวมถึงการหิ้วของหนักๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ภายหลังการบริจาคโลหิต -ถ้ามีอาการเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หรือรู้สึกผิดปกติ ให้รีบนั่งก้มศีรษะต่ำระหว่างเข่า หรือนอนราบยกเท้าสูงจนกระทั่งมีอาการปกติจึงลุกขึ้น และเดินทางกลับ ป้องกันอุบัติเหตุจากการล้ม -ถ้ามีโลหิตซึมออกมาจากรอยผ้าปิดแผล อย่าตกใจ ให้ใช้นิ้วมืออีกด้านหนึ่งกดลงบนผ้าก๊อส กดให้แน่นและยกแขนสูงไว้ประมาณ 3-5 นาที หากยังไม่หยุดซึมให้กลับมายังสถานที่บริจาคโลหิตเพื่อพบแพทย์หรือพยาบาล -ผู้บริจาคโลหิตที่ทำงานปีนป่ายที่สูง หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ควรหยุดพัก 1 วัน -รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และยาธาตุเหล็กที่ได้รับวันละอย่างน้อย 1 เม็ด จนหมด เพื่อป้องกันการขาดธาตุเหล็ก
ขั้นตอนบริจาคโลหิต ขั้นตอนที่ 1 กรอกแบบฟอร์มผู้บริจาคโลหิต *ควรให้ข้อมูลตรงตามความเป็นจริงของผู้บริจาค จะทำให้ได้โลหิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งต่อตัวผู้บริจาคเอง และตัวผู้ป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการรับบริจาคโลหิต ขั้นตอนที่ 2 ตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต และความเข้มโลหิต *บุคลากรทางการแพทย์ จะสอบถามประวัติผู้บริจาคเพิ่มเติม เพื่อวินิจฉัยเบื้องต้นว่าท่าน มีสุขภาพพร้อมที่จะบริจาคโลหิตหรือไม่ โปรดอย่าปิดบังข้อมูลเรื่องสุขภาพ หรือเขินอายที่ จะตอบคำถาม ขั้นตอนที่ 3 ลงทะเบียนรับหมายเลขถุงบรรจุโลหิต ที่เคาน์เตอร์ทะเบียน *หลังบริจาคโลหิตจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่จัดไว้บริการให้ และนั่งพักสักระยะหนึ่ง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพน้ำในร่างกาย เมื่อปกติดีแล้วจึงเดินทางกลับ
สาธุอนุโมทนายิ่งกับท่านที่บริจาคและท่านจขกทครับ สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านใดมีเลืดกรุปเอ เรียนเชิญครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
สาธุอนุโมทนายิ่งกับท่านที่บริจาคและท่านจขกทครับ สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านใดมีเลือดกรุปเอ เรียนเชิญครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หลวงปู่จาม ปูชนีย์แห่งธรรม หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ถือเคร่งในพระปรมัตถ์วิปัสสนากรรมฐานที่ออกวิเวกรุกขมูล เดินทางศึกษาในพระธรรม หาความสงบนิ่งจนถึงรสพระธรรมอย่างแตกฉาน ยากจะหาเกจิอาจารย์องค์ใดในยุคปัจจุบันที่จะส่งคำสอนต่อมนุษย์ผู้ซึ่งอยู่ในยุคไขว่คว้า แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอย่างในยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน จนทำให้คุณค่าของคนต้องถดถอยลง อนุโมทนา ท่านเจ้าของกระทู้ค่ะ ขอบนอบน้อมอาราธนาเสียงหลวงปู่จามให้พร
การให้และการรับเลือดในหมู่เลือด คนเลือดกรุ๊ป O รับได้จาก O เท่านั้น แต่ให้กับกรุ๊ปอื่นได้ทุก กรุ๊ป คนเลือดกรุ๊ป AB รับได้จากทุกกรุ๊ป แต่ให้เลือดแก่ผู้อื่นได้เฉพาะคนที่เป็นเลือดกรุ๊ป AB คนเลือดกรุ๊ป A รับจาก A,O ให้ได้กับ A,AB คนเลือดกรุ๊ป B รับได้จาก B,O ให้ได้กับ B,AB ส่วน + กับ - นั้น คนเลือดกรุ๊ป - (Rh-ve) ต้องรับจาก Rh-ve เท่านั้น (หากคนเลือดกรุ๊ป Rh-ve รับเลือดจาก Rh+ve อาการข้างเคียงจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ในครั้งถัดๆไป) แต่เกือบทั้งหมดของคนไทยเป็นพวก + เช่น A+, B+, O+, AB+ (หมายถึง AB+ve) (หมู่เลือด O พบมากที่สุด, A กับ B พบได้มากพอๆ กัน และ AB มีน้อยที่สุด)
สาธุ ขอบคุณ คุณบุญญสิกขาที่มาเพิ่มเติมเรื่องราวหลวงปู่จาม นะคะ ต่างก็ห่างหายไปจากเวปนี้กันนานพอสมควร ด้วยภารกิจทางโลกที่เราต่างก็ยังตัดไม่ขาดกันซะที แต่ก็ไม่เคยทิ้งทางธรรม ตามแต่โอกาสอันควรว่าจะได้ทำมากน้อยเท่านั้นเอง
ได้ทุกๆ ที่ของสภากาชาดในแต่ละจังหวัดนั้นค่ะ เพียงแต่เราระบุเจาะจงเลือดที่เราให้เท่านั้นเองว่าจะให้กับใครเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งโดยปรกติเป็นการให้แบบไม่เจาะจง เว้นแต่เหตุการณ์เช่นนี้ค่ะคุณขวัญพิภพ อนุโมทนาในบุญที่จะทำนี้นะคะ
ดิฉันบริจาคโลหิตเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ (กรุ๊ป A) ให้ผู้ป่วยท่านใดก็ได้ แต่ถ้าเลือดของดิฉันได้เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปถวายการรักษาให้แด่หลวงปู่ก็จะดีใจมากนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
หลวงปู่ท่านเป็นโรคติดเชื้อในปอดนะคะ หากท่านอยู่ กทม. ก็เชิญไปบริจาคที่สภากาชาดไทย หรือที่สาขา หรือที่รถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ก็ได้ แล้วระบุว่า จะขอบริจาคให้หลวงปู่จามฯ เขาก็จะส่งถุงเลือดนั้น ไปเก็บที่ รพ.คำชะอี เพื่อเตรียมพร้อมใช้ค่ะ
การบริจาคเกล็ดโลหิต (SINGLE DONOR PLATELETS) เกล็ดโลหิต เป็นเซลล์เม็ดโลหิตชนิดหนึ่ง มีขนาดเล็กมาก แต่มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างยิ่ง เพราะช่วยทำให้โลหิตแข็งเป็นลิ่ม และอุดรอยฉีกขาดของเส้นโลหิตเวลาที่ถูกของมีคมบาด โดยปกติเกล็ดโลหิต มีอายุในการทำงานประมาณ 5-10 วัน ในร่างกายมนุษย์เราจะมีเกล็ดโลหิตประมาณ 1-5 แสน / 1 ลูกบาศก์มิลลิลิตร ถ้ามีภาวะเกล็ดโลหิตต่ำมากจะทำให้เกิดโลหิตออกง่าย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโรคที่ทำให้เกล็ดโลหิตต่ำ เช่น โรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาว โรคที่เกี่ยวกับไขกระดูกไม่ทำงาน โรคติดเชื้อบางชนิด เช่น โรคไข้เลือดออก เป็นต้น ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ต้องใช้เกล็ดโลหิตในการรักษา ซึ่งศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จะเปิดรับบริจาคเกล็ดโลหิตเฉพาะที่มีการร้องขอ จากโรงพยาบาลเท่านั้น มิได้เปิดรับบริจาคทั่วไป เหมือนรับบริจาคโลหิตหรือพลาสมา ทั้งนี้เพราะเกล็ดโลหิตเมื่อเจาะออกมานอกร่างกายแล้ว จะเก็บไว้ได้ไม่เกิน 5 วัน ตามลักษณะและกรรมวิธีในการเจาะเก็บและต้องรักษาไว้ในตู้ ซึ่งควบคุมอุณภูมิไว้ที่ 22 องศาเซลเซียส พร้อมกับมีการเขย่าเบา ๆ ตลอดเวลา การรับบริจาคเกล็ดโลหิต จะใช้เครื่องมือเฉพาะที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ผู้บริจาคเกล็ดโลหิตจะถูกเจาะโลหิตจากแขนข้างหนึ่งผ่านเข้าเครื่องแยกอัตโนมัติ เพื่อแยกเกล็ดโลหิตออกจากเม็ดโลหิตแดง เมื่อได้เกล็ดโลหิตแล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ จะถูกคืนกลับเข้าสู่ร่างกาย ระยะเวลาในการบริจาคเกล็ดโลหิต ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ข้อกำหนดพิเศษสำหรับผู้บริจาคเกล็ดโลหิต - หมู่โลหิตจะต้องตรงกับผู้ป่วยที่ต้องการเกล็ดโลหิต - เส้นโลหิตตรงข้อพับแขนชัดเจน - ไม่รับประทานยาแก้ปวดแอสไพริน ในระยะเวลา 5 วัน - ก่อนบริจาคและควรเป็นผู้ที่บริจาคโลหิตสม่ำเสมอ การบริจาคเกล็ดโลหิตไม่ได้ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ผู้บริจาคสามารถปฏิบัติภารกิจการงานได้ตามปกติยกเว้นในกรณีจำเป็น การบริจาคเกล็ดโลหิตอาจให้บริจาคได้ทุก 3 วันแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และหลังจากบริจาคเกล็ดโลหิตไปแล้ว 1 เดือน สามารถบริจาคโลหิตได้ตามปกติ Fw:การบริจาคเกล็ดโลหิต (SINGLE DONOR PLATELETS)
ประโยชน์ของเกร็ดเลือด ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ ดังนี้ - ผู้ป่วย โรค Leukemia โดยจะต้องรับเกล็ดเลือดสัปดาห์ละ 2ครั้ง ถึงวันเว้นวันขึ้นกับอาการโรค - ผู้ป่วย Dengue fever (ไข้เลือดออก) จะใช้เกล็ดเลือดเวลาที่มีเลือดออกมาก - ผู้ป่วยมะเร็ง - DIC - ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia )ในโรคอื่นๆ - โรคเลือดอื่นๆ - Aplastic anamia
กรุ๊ป A นักมังสวิรัติดีๆ นี่เอง คน เลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบกายย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง กรุ๊ปเอจึงถูกจัดเป็นนักมังสวิรัติ อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด กินปลาอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อเสริมโปรตีนหลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คตินรบกวนระบบการย่อย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่างๆ อาจกินเนื้อไก่ได้นิดหน่อย เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำแทนนมวัว กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว บรรดาตระกูลถั่วต่างๆ อาทิ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบางๆ และถั่วเหลือง เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามาถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง ผักทั้งสดและสุกกินแล้วดี โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่และบร็อคเคอลีมีสารแอนติออกซิแดนท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน กินผลไม้ได้แทบทุกชนิดยกเว้นแตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้แต่ควรเลี่ยงเบียร์และน้ำอัดลม