เรื่องเด่น ทำพระคาถาเงินล้าน ต้องมีความจริงจังและสม่ำเสมอ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 25 มีนาคม 2025 at 08:32.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,086
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,684
    ค่าพลัง:
    +26,543
    IMG_7047.jpeg

    การที่สภาพเศรษฐกิจของเราไม่ดี เราจะไปโทษนักการเมืองก็ไม่ได้ จะไปโทษภาวะเศรษฐกิจโลกก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างพวกเราทำมาเอง เมื่อถึงวาระผลกรรมอันนี้ก็ส่งผลมาถึงตัวเรา แต่ว่าสายของเรานั้นตามที่พระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ให้ เราก็มีวิธีการที่จะผ่อนหนักเป็นเบาเป็นระยะ ๆ

    โดยเฉพาะเมื่อปี ๒๕๒๘ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่าน ได้ขอให้บรรดาลูกหลานใช้พระคาถาเงินล้าน เพื่อเสริมสร้างความคล่องตัวในการดำเนินชีวิต พระท่านก็อนุญาตให้ เราจะสังเกตได้ว่า ใครก็ตามที่ทำพระคาถาเงินล้านเป็นกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ ความข้องขัดในการดำเนินชีวิตจะมีน้อยกว่าคนอื่นเขา ขอยืนยันคำว่าจริงจังและสม่ำเสมอ เพราะว่าเรื่องคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา คนจะได้อภิญญาต้องมีความจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำ ๆ ทิ้ง ๆ เมื่อท่านทั้งหลายได้ทำจริงจังและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะทำในจำนวนที่มาก อย่างเช่นว่าอาจจะภาวนาวันละ ๑๐๘ จบ เป็นต้น ก็จะมีความสะดวกคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา

    โดยเฉพาะอาตมานั้น ตั้งแต่ท่านบอกมา การภาวนาจากที่เคยใช้อยู่ ๙ จบ ก็เพิ่มมาเป็น ๓๐ จบ....
    จากที่ใช้ ๓๐ จบ แล้วรู้ว่าเวลายังเหลืออีกเยอะ ก็เพิ่มเป็น ๓๐๐ จบ..!
    ไล่มากเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็น ๓๖๐ จบ เป็น ๖๐๐ จบ เป็น ๙๐๐ จบเป็น ๑,๒๐๐ จบ เป็นต้น

    การท่องให้ใช้วิธีท่องอย่างช้า ๆ โดยจับลมหายใจภาวนาไปด้วย เป็นการเน้นคุณภาพ ไม่ใช่จ้ำ ๆ ให้จบไป สักแต่ว่าเอาปริมาณ เรื่องของคาถาถ้าทำด้วยความเคารพ จริงจังและสม่ำเสมอแล้ว ไม่เกิน ๒ เดือนผลก็จะเกิดขึ้น

    หลังจากที่ทดสอบแล้วว่าแต่ละวันสามารถทำสูงสุดได้เท่าไร จำนวนที่พอเหมาะพอดีก็อยู่ที่ประมาณ ๓๐๐ จบ เพราะว่าต้องทำงานอื่นด้วย ในจำนวน ๓๐๐ จบนั้น อาตมาแบ่งเป็น ๓ ชุด คือ ตอนเช้า ๑๐๐ จบ กลางวัน ๑๐๐ จบ ตอนเย็น ๑๐๐ จบ เวลาอื่นก็ทรงอารมณ์ทำงานไปตามปกติ อาตมาภาวนาอยู่ในลักษณะนี้ ๓ ปีติดกัน โดยใช้ลูกประคำในการนับจำนวนไปด้วย นับจนลูกประคำขาดไปหลายต่อหลายครั้ง บางทีก็เก็บลูกประคำคืนมาได้ไม่ครบ ต้องหาเสริมเข้าไป นับจนนิ้วมือด้านเป็นเม็ดเลย (หนังนิ้วหนาขึ้นมาในลักษณะด้านเหมือนคนทำงานหนัก)

    หลังจากนั้นก็ทดสอบว่าวันหนึ่งทำได้เต็มที่ประมาณ ๑,๒๐๐ จบ แต่เวลาอย่างอื่นไม่เหลือเลย เพราะว่าเริ่มจากตี ๓ ไปสิ้นสุดเอาตอนประมาณ ๑ ทุ่ม ญาติโยมลองนับดูว่า ต้องใช้เวลาเท่าไรถึงภาวนา ๑,๒๐๐ จบ...ทำอยู่ประมาณสองเดือนเต็ม แต่เวลาทำงานอื่นไม่มี จึงเริ่มลดลงมา ระยะหลังนี่ใช้ว่า มีเวลาภาวนาเมื่อไรก็ใช้คาถาบทนี้

    เห็นได้ชัดในเรื่องความคล่องตัวต่าง ๆ เนื่องจากออกจากวัดท่าซุงมา ใช้เวลา ๑๓ เดือน สร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาะพระฤๅษี (ปัจจุบันคือสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี) เสร็จสิ้นเรียบร้อย มีอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๑๓ หลังด้วยกัน ( ๑๓ เดือน สร้างได้ ๑๓ หลัง) ทั้ง ๆ ที่ช่างส่งงานไม่ตรงเวลาด้วย บางทีนัดกันไว้ ๔๕ วันก็เป็น ๖๐ วัน จนกระทั่งเขาเอาไปลือกันทั้งจังหวัดว่า ไม่เคยเห็นวัดไหนสร้างเร็วอย่างนี้ อาตมายืนยันว่าทุกวัดถ้าหากว่าเงินพร้อม คนพร้อม ของพร้อม สร้างได้เร็วอย่างนี้ทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะไม่พร้อมตรงเงินเสียมากกว่า

    ช่วงนั้นพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านมาโปรด ท่านบอกว่า "ถ้าภาวนาคาถาเงินล้านเป็นกรรมฐาน ทรงอารมณ์โดยไม่เคลื่อนเลยวันละ ๑ ชั่วโมง จะสร้างโบสถ์กี่หลังก็ทำได้"

    หลังจากที่สร้างสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีเสร็จแล้ว วัดอื่น ๆ ก็มาขอให้ช่วย วัดนั้นจะเอาโบสถ์หลังหนึ่ง วัดนี้จะเอาศาลาหลังหนึ่ง อาตมาทำให้ทั้งนั้น โดยเฉพาะวัดที่ต้องไปทุ่มเททำอย่างจริง ๆ จัง ๆ เหมือนเป็นวัดของตัวเองเลยมีอยู่ ๗ - ๘ วัดด้วยกัน อย่างวัดหนองบัวที่พม่าก็ดี หรือวัดพุทธบริษัทก็ดี อาคารสิ่งก่อสร้างหมดสภาพแล้ว ต้องรื้อทิ้งเหลือแต่พื้นดินเลย แล้วก็เริ่มต้นทำขึ้นมาใหม่ทั้งหมด

    วัดพุทธบริษัทใช้เวลาสร้าง ๕ เดือนเศษ ๆ มีอาคารพอแก่การใช้งาน ยกเว้นไม่มีโบสถ์เท่านั้น แต่ว่าวัดหนองบัวนั้นสร้างอาคารหลังใหญ่มหึมามาก และข้าวของที่สั่งพม่านั้นหาได้ยาก ซื้อได้ยาก แพงอีกต่างหาก การขนส่งก็ลำบาก จึงใช้เวลาถึง ๓ ปีกว่าที่จะเรียบร้อย

    เมื่อทำวัดวาอารามต่าง ๆ ความอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเงินก็เกิดขึ้น บางช่วงเงินขาด แต่ต้องส่งค่างวดก็คือค่าวัสดุและค่าแรง ปรากฏว่า จู่ ๆ ก็มีโยมแบกเงินมา ๑ ล้านบาทมาถวาย ถามเขาว่าการทำบุญแบบนี้แม้จะเป็นเรื่องดี แต่ว่าตัวเองและคนรอบข้างเดือดร้อนหรือเปล่า ? ถ้าหากยังมีที่จำเป็นจะต้องใช้ ให้เอากลับไปใช้ก่อน เขาก็ยืนยันว่าไม่เดือดร้อน โดยใช้คำว่า "ทำงานมาทั้งชีวิตก็อยากจะทำบุญให้สะใจสักครั้งหนึ่ง" เป็นกำลังใจที่น่าโมทนามาก

    ญาติโยมทั้งหลายนั้นแม้จะทราบว่าคาถาเงินล้านเป็นของดี แต่ไม่ค่อยจะทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ค่อยต่อเนื่อง บางคนก็มาบ่น บอกว่ามีความลำบากในการทำมาหากินมาก อาตมาก็บอกคาถาเงินล้านให้ไปใช้ เขาบอกว่าเขาภาวนาเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ถามว่า "โยมภาวนาวันละกี่จบ ?" โยมบอกว่า "๑ จบ" อาตมาก็อยากจะบอกว่า "จบเห่..!"

    คนอยากรวยทำงานวันละ ๑ นาที.. ขนาด ๒๔ ชั่วโมงทำ ๘ ชั่วโมง ยังไม่ค่อยจะพอกินเลย จึงได้บอกให้ญาติโยมทั้งหลายไปเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้จริงจังและสม่ำเสมอ โดยให้ยึดที่ ๑๐๘ จบ เป็นหลัก เพราะว่าภาวะเศรษฐกิจไม่ใช่แต่บ้านเราเท่านั้น เศรษฐกิจโลกก็พลอยแย่ไปด้วย ถ้าหากว่าเราอาศัยบารมีพระ ยึดท่านเป็นที่พึ่งสุดท้ายจริง ๆ ทำแบบมอบกายถวายชีวิตจริง ๆ ขอยืนยันว่าทุกอย่างก็จะเป็นจริงไปด้วย
    ....................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2025 at 17:07
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...