เอา สิลบได้ลบ ไป ผมจะโพสถามต่อไป เรื่อยๆ ถึงเหตุผล

http://palungjit.org/showthread.php?t=104979 ถ้าจะลบก็ควร จะ แจงเหตุ ผล ด้วยครับ ไม่ใช่ อยุ่ดีๆ มาลบ ซะ ดื้อๆ ผม ไม่เข้าใจ ผม และสมาชิกท่านอื่น ซึ่งผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้โพสกระทู้ เพื่อ ให้คน เห็น ว่า มี คน ใช้เวปนี้ ทำมาหา กินโดยการหลอก คน เพื่อ ไม่ให้คน อื่นๆ ตกเป็น เหยื่อ บุคคลกลุ่มนี้ แล้วจะมาลบ กระทู้ทำไม ครับ ขอเหตุผล ด้วยครับ

 

ขันท์ วิมุตติ อย่าหลงกลไปกับเกมนี้นะ ถอนเสีย


ถ้าเห็นว่าเราเป็นกัลยาณมิตร ญาติธรรม ถอนนะ อย่าได้โพสตาม อย่าได้โพสใหม่

รอดูไปก่อน

 

เขาใช้เวปนี้หากินยังไงครับพอดีผมพึ่งเจอกระทู้นี้ครับ ช่วยบอกหน่อยเผื่อจะได้ระวังตัว

 

ตอนแรก ผมรู้สึกไม่พอใจมาก ที่มาลบข้อความของผม ชนิดที่ว่า ลบแบบ ไม่ดูอะไร
แต่ตอนนี้ ก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะว่า คนมันจะลบ มันก็ลบ ก็ไม่มีเหตุผลอะไร นอกจาก อคติ

ทีนี้ ต้องถามว่า จะทำอย่างไรดี หาก โพสอะไร ไปก็ลบ โพสอะไรก็ลบ เราก็หยุดเล่นสิ ง่ายจะตาย
แต่ ถ้าหากว่า มีการค้าขายอะไร หรือ ว่าบิดเบือนพุทธศาสนา อีก เราก็มาโพสอีก มันจะลบก็ลบไป

แต่สุดท้าย ก็จะเชิญ คณะกรรมการพิจารณาเว็บไซต์มาตรวจ และ เชิญ องค์กรพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยมาตรวจ นั่นก็เป็นทางออกสุดท้าย

แต่ตอนนี้มันยังไม่เป็นอะไร ลบก็ลบไป คุณ siritach ก็ ไม่ต้องไปเคืองอะไร เราต้อง ดีใจที่ว่า แสดงว่า คนดูแลเขาไม่มีปัญญาพอที่จะ ทำอย่างอื่นนอกจากการลบ นั่นหมายความว่า เรามีปัญญามากกว่าเขานะ

 

ข้อนี้หากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่ทำถูกต้องแล้ว ต้องมาตั้งคำถามว่า
1 มีการเลือกปฏิบัตอย่างออกหน้าออกตา
2 ไม่มีการแจงเหตุ แจงผล
3 เลือกลบเฉพาะบุคคล ในขณะที่อีกหลายๆ คนไม่ลบ

ข้อนี้มีจุดประสงค์เพื่อ จงใจเล่นงานรายบุคคล


ถ้าจะบอกว่า มีการกล่าวคำไม่สุภาพ ในบทลงโทษนั้น หากไม่ได้กำหนดไว้ ย่อมไม่มีโทษ แต่การลบกระทู้นั้นคือ การลงโทษ โดยไม่มีบทกำหนด ซึ่ง หากเคารพซึ่งกันและกัน มันก็ต้องมีการตักเตือนด้วย วาจา เช่นส่งจดหมายมาเตือนว่า ห้ามมีการกระทำเช่นนั้นเช่นนี้ หรือ มีการขอความร่วมมือ
แต่นี่ หาเป็นเช่นนั้นไม่

สำหรับ เล่าปัง สิ่งที่คุณ พูดมันไม่เกี่ยวกับ กัลยาณมิตรเลย และ ไม่มีอะไรอันเกี่ยวกับ เกมส์ ผมไม่สนเรื่องเกมส์หรือ กล แต่ สนใจเรื่องความถูกต้อง

แล้วจะบอกให้ว่า กลศึกทุกที่นั้น ย่อมแพ้ความถูกต้องเสมอ

 

หากมีบุคคลสองคน กำลังทะเลาะกัน ตอบโต้กัน ถ้ามีคนกลางมาตบคนใดคนหนึ่ง
นั่นหมายความว่า เขากำลังยกย่องอีกฝ่าย หรือ เข้าข้างอีกฝ่ายหรือไม่
มันก็ชัดเจน แต่หากว่ามีพฤติกรรมที่เป็นกลางจริง ต้องมีการตักเตือนทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุและผล และต้องแสดงตนว่าคนกลางนั้นเป็นใคร ไม่ใช่มุดหัว แอบตี

เด็กหนอเด็ก ทำงานเป็นเด็กอมมือ นี่มันไม่ใช่การรบหรอก มันเรียกว่าคบเด็กสร้างบ้าน
ทำงานด้วยการไร้หลักการ ทำงานด้วยอคติ

ผมโตมา ทำงานกับคนใหญ่คนโต ของบ้านเมืองมามาก เห็นแล้วทุเรส ว่าผู้ดูแลที่นี่ หลักการก็ไม่มี
แต่ก็เอาเถอะจะให้อภัยเพราะถือว่า เด็ก

 

ลบที่ไหน มาอยู่นี่ หลุมดำ

อยากด่าอาชวิน มาด่าที่นี่

ด่าคนอื่นได้ ก็ต้องถูกด่าได้

 

เป็นการกระทำที่โสมมมาก

พวกนักการเมืองสาดโครน
คนสาดยังมีตัวมีตน นาย ก. นาย ข.
บ้านอยู่ไหน

โอ้โห...ด่า เค้าได้เป็นฉากๆ
แต่หาตัวตนไม่เจอ ถูกแล้วที่ผู้ดูแลระบบ จะเอามาลงหลุม

ไม่ได้ลบ อยากด่ามาด่ากันที่นี้

 

ถ้าเค้าขายของ ก็ไล่เค้าไปห้องขายของ
เช่นเอารูปมาโพสท์ แต่มีสินค้ามาด้วย แถมบอกราคาเสร็จสรรพ
บอกเค้าไปว่านี้...โฆษณา

ไปห้องขายของ
ไม่ใช่เห็นเข้าแล้ว ได้ที ขุดเอาเรื่องพระเจ้าเหามา
แหม...ทำเป็นบริสุทธิใจ ได้ทีชำระแค้นมากกว่า

ถ้าเค้าไปเปิดบอร์ดด่าคุณ
ให้ไปเปิดบอร์ด ด่าเค้าคืน
ไม่ใช่ความรับผิดชอบของคนแถวนี้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย
คุณออกเงินจ่ายค่า server เท่าไหร่กันเชียว

พวกอาจารย์ อาชวิน ถ้าเค้าเอาของมาขายอีก ว่างๆผมจะไปป่วนให้
ขายของ ก็ให้อยู่ส่วนขายของ
แก่ๆกันแล้ว ไร้มารยาท ให้เด็กเหี้ยๆ มันถอนหงอกเอา
ทู่เรสสส

 

บุญยงค์ ไปดูข้อมูลก่อน ที่ว่า

ถ้าไม่มีคนโดนลบเขาจะออกมาพูดไหม

สมมติว่า บุญยงค์อยู่ในคุก บุญยงค์นอนอยู่กับเพื่อนอีกสามคน แต่โดนแอบตี หัว
พอตื่นขึ้นมา บุญยงค์ถามว่าใครตี ทุกคนบอกว่าไม่รู้ ก็หมายความว่า ไอ้สามคนนั่นแหละ มันรู้เห็นเป็นใจกันทั้งหมด
เพราะหากไม่รู้เห็นเป็นใจ มันก็ต้องตักเตือนกัน ว่ากล่าวกัน ไม่ให้ทำเรื่องแบบนี้

บุญยงค์นี่ก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ คุยกับผมหลายครั้ง ไม่ได้พิจารณาอะไรขึ้นมาบ้างเลย

 

เรื่องตาที่สาม ไม่ต้องเอามาพูดหรอก มันเลยไปแล้ว งานนี้ มันเป็นเรื่องการกระทำไม่ถูกต้องของผู้ดูแล
เรื่องของตาที่สาม คนด่าก็จบไปแล้ว คนโดนด่าก้จบไปแล้ว แต่ผู้ดูแลกลับไม่จบ มาเล่นงาน ฝ่ายที่พูดความจริง

ทำแบบนี้ถูกต้องหรือ

คนที่รู้ดี คือ ฝ่ายผู้ดูแลว่า ip ใครเป็นอย่างไร ทำไมไม่ออกมาว่ากล่าว ครั้งพวกอวตาร เข้าข้างตนเอง
แต่นี่ ฝ่ายที่เขาพูดความจริง กลับมาเล่นงานเขา มันใช้ได้หรือ

คนจะทะเลาะ ย้ายกระทู้มาไม่มีใครว่าหรอก แต่ การลบกระทู้ลบคำตอบกัน มันคือการกลั่นแกล้ง เข้าใจไว้ด้วย
เอาเรื่องส่วนตัว มาตัดสิน มีใจอคติแบบนี้ไม่ถูกต้อง

 

ไหนว่าเป็นคนดี
คนดีโดนตีหัวก็อโหสิกรรมสิครับ

แต่ถ้าจะชำระแค้น ยุทธภพมีกฏ...

เดี๋ยวก็มาเฝือกันเรื่องกฏยุทธภพอีก

แต่จะเอาคืน เอาคืนให้มีมารยาทหน่อย

คนโดนตีหัวหนะ ผมกับพวกคุณใครโดนหนักกว่ากัน

 

อโหสิ สิครับ แต่ต้องพูดไง คนละเรื่อง
ผมไม่อโหสิ ผมก็ต้องด่า ต้องเคลื่อนไหวมากกว่านี้แล้ว
นี่ออกมาโพส ออกมาพูด นี่เรียกว่าอะไรหละ


แต่จะจบเพียงเท่านี้ วันนี้พอเท่านี้ จบกันแล้วๆ กันไป นั่นแหละ

 

ลบเพราะเจ้าของกระทู้มีสิทธิลบ

อาจไม่ใช่ผู้ดูแลระบบก็ได้

ดูแล้วผู้ดูแลระบบ ก็มีหลายทิฏฐิ
คือว่ามีความหลากหลาย ก็ดีแล้ว

จะต้องเหมาให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ชีวิตจืดชืดกันพอดี

ถ้าเค้าลบจริง ต้องเขียนได้ใหม่
ต้องให้ดีกว่าเก่า หมดจด กว่าเก่า กลัวอะไร
เขียนจน แม้กระทั้งศัตรูเสียดาย ไม่อยากลบ

อย่างเนียะคุณขันธ์ทำได้ ทำให้พวกเค้าดูหน่อยสิ
ทำได้ป่าววววววววว

 

กระทู้ ผมก็โดนลบ ไม่ใช่แค่คำตอบหรอก บุญยงค์
แต่เอาเถอะ จบกันแล้ว แล้วๆ กันไป
ผมก็ไม่ใช่คนดันทุรัง

 

จริงๆเว็บนี้เขาก็เปิดเสรีดีเหมือนกันนะ

ใครจะสมัครกี่ id ก็ได้ จะตรวจสอบก็เป็นเรื่องยุ่งยากเปล่าๆ

แต่การที่มีหลาย id ได้นี้ ก็มีคำตอบอยู่ในตัวเหมือนกันนะว่า

ถ้า ลบ หรือ แบน โดยการเพ่งไปที่ id มันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุมีผลเท่าไหร่

อย่างนักโต้กระทู้บางคน เขาก็รู้ดี เลยอวตาร id ไว้หลายภาค แบนไป ลบไป ก็ไม่ใช่ id หลักที่ใช้ เพราะ id หลักที่ใช้จะดีแสนดี จะมีคุโณปการ มีแต่คนตรง ที่ใช้ id เดียว แต่ก็นั้นแหละ ถึง ban ไปก็เกิดใหม่ ยังกะโอปปติกะ เช่น มาต๋าเดียวในโลกคนนั้น เขาเกิดตายในวันเดียวถึง 3 ก็มีให้เห็น

และเนื่องจากการมีหลาย id ดังนั้นการตักเตือนก็ไม่เป็นผลไปด้วย เตือนไปก็ไม่ใช่ทิฏฐิตัวจริง เป็นอวตาร

id นั้นโดนว่าอาจจะขำๆ ไม่เดือดร้อน เพราะมันมีหน้าที่นั้น เหตุนี้ก็เป็นผลที่ว่า จนท ไม่อยากจะเมล์เตือนให้เสียเวลา เราน่าจะคาดคะเนกันได้ แล้วก็ยอมให้ จนท เขา ทำหน้าที่ของไปตามแต่กำลัง ซึ่งก็ต้องเคารพ เหมือนดูบอล กรรมการเป่าก็ต้องเป็นเป่า จะประท้วงไปก็เสียเวลาออกกำลังกาย

 

เอาเถอะ ผมพูดคำไหนคำนั้น ไม่โกรธเคือง ไม่แค้นเคือง และ พยายามเข้าใจในตัวคนอื่นได้
และต่อไป จะพูดคำพูดที่รุนแรงให้น้อยลง
ก็จะได้มีความสุขกันทุกฝ่าย

 

เรื่องชุมชนสมมติ


ต่อไปนี้เราให้เป็นเหตุการณ์จำลอง เพื่อตัวอย่างทางการคิดพิจารณา


ใจความว่า


ในละแวกย่านที่อาศัยใดๆ มักปนปะคละเคล้าไปด้วย บุคคลหลายอาชีพ

หลายจริต หลายพฤติกรรม


อันเป็นธรรมดา ผู้มีความพึงใจต่อกัน ย่อมนิยมคบค้าเสวนากัน

โดยความสะดวกใจแห่งตน


ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชุมชนนั้น ย่อมมีทั้งที่ถูกใจ

และไม่ถูกใจ บุคคลแต่ละราย


ครั้นเมื่อยังมิได้โยกย้ายภูมิลำเนา จึงต้องปรับสภาพตนตามไป

แต่มิใช่ การไหลตามน้ำ


ทว่า คือการปรับสภาพทางการเลือกรับรู้ รับคิด รับร่วมอุดมการณ์

ในสิ่งอันพึงใจ และไม่รับในสิ่งอันไม่พึงใจ

ถือเสียว่า เป็นเครื่องสอบอารมณ์

 

ก็ถูกแล้วนี่หน้า จนท เขาก็ทำถูกแล้ว

คุณเองก็ชี้ว่าผมนะไม่รู้เรื่องรู้ราว ติโน่นตินี้ เป็รนคนไม่ดี

แต่คุณก็โพสโต้ตอบกับเราไปมา ก็เรียกว่า เสวนา จ พลานํ

พอ จนท ลงโทษเรา ก็เลยเข้าปิ้งกันหมด ไม่เห็นแปลกใจเลย

 

พูดซะน่าสงสารเชียว ใบไม้ ถูกแล้วที่ คุณโพสแต่เรื่องธรรมะ ไม่เคยด่ากับใครเขาไฉนถึงโดนย้ายมาด้วย
ก็ถูกนะ ทำไมถึงย้ายใบไม้มา ด้วย
แต่บังเอิญธรรมะของคุณ มันไปขัดตาชาวบ้านไง แล้วก็โพสไม่โพสแค่กระทู้เดียว เล่นไปเรื่อยๆ แบบนี้ มันก็ธรรมดา

ฮาดี ตอนนี้ศัตรูกันดันกลับมาเป็นพันธมิตร เพราะมีจุดร่วมเดียวกัน ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรในการเมือง
นี่ขนาดแค่หมู่บ้าน พลังใจ แล้วถ้าประเทศชาติจะขนาดไหน

น่าไปเขียนนิยายต่อดีไหม ว่า จุดหักมุม คือ แม่ทัพต้นไม้ กลับใจ เพราะว่า ถูก ฝ่าย มารรักมาร หักหลัง