ธาตุ@ สิทธิการิยะ ถ้าจะเรียนปลุกเสกใดๆก็ดี พึงให้รู้จักธาตุเป็นต้นไปก่อน จึงจะทําได้เป็นทุกสิ่งแล นะคือธาตุนํ้าหล่อเลี้ยงร่างกายและดวงจิต เรียกว่า อาโปธาตุ โม คือธาตุ ดินเรียกว่า ปฐวีธาตุ พุท คือธาตุ ไฟเรียกว่า เตโชธาตุ ธาคือธาตุลม เรียกว่า วาโยธาตุ ยะ คือ อากาศธาตุ นะ คือธาตุนํ้า กําลัง=12, โม คือธาตุดิน=21 , พุทคือธาตุไฟ=6, ธาคือธาตุลม=7, ยะคืออากาศธาตุ=10 รวมทั้งหมด=56 คือคุณของพระพุทธ คุณพระพุทธ56นี้ถ้าแบ่งออกเป็น2=28 และเอาอากาศธาตุ10บวกรวมเข้าไป=38 คือคุณพระธรรม และถ้าแบ่งคุณพระพุทธ56ออกเป็น4ส่วนก็=14 คือคุณพระสงฆ์ ฉะนั้นคุณพระพุทธ56 คุณพระธรรม38 คุณพระสงฆ์14 รวมกัน=108 ประคําเขาจึงทํา108เม็ดยังไง ในธาตุทั้ง5กองนี้ โดยเฉพาะอากาศธาตุนั้นมีอยู่โดยรอบในส่วนอันว่างเปล่า ฉะนั้นจึงให้พิจารณาเพียง4ธาตุ คือ ดิน นํ้า ลม ไฟ ที่คาถาเรียกว่า ธาตุ4คือนะมะพะธะ นะมะพะธะนี้ถอดมาจากแม่ธาตุใหญ่คือนะโมพุทธายะ นะโมพุทธายะนี้ เปรียบเสมือนแม่ธาตุใหญ่เป็นรากเง่าของธาตุทั้ง4 นะโมพุทธายะย่อมาจาก นะ=พระกุกกุสันโธ โม=พระโกนาโคม พุท=พระกัสสปะ ธา=พระสมณะโคดม ยะ=พระศรีอาริยะเมตตรัย ฉะนั้นคุณต้องจําคือ อาโปธาตุ(นะ)=นะ ปฐวีธาตุดิน(โม)=มะ เตโชธาตุไฟ(พุท)=พะ วาโยธาตุลม(ธา)=ธะหรือบางทีเขียนเป็นทะ เมื่อเราจะประกอปพิธีกรรมใดๆก็ดีเช่น จะปลุกเสกนางกวัก กุมารทอง รักยม หนุมาน สิงห์ เสือ อะไรก็ดีที่มีชีวิตต้องประจุหรือใส่ธาตุทั้ง4ก่อน แล้วตามด้วย อาการ32ที่ว่า อัตถิ อิมัสมิง กาเย เกษา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ [font=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]วิธีตั้งธาตุ = การตั้งธาตุนั้นให้ตั้งแม่ธาตุใหญ่ก่อนคือนะโมพุทธายะ แล้วตามด้วยธาตุ4คือ นะมะพะธะ หนุนด้วยธาตุกรณีคือ จะภะกะสะ ก่อนที่จะตั้งธาตุให้ว่าคาถาชุมนุมธาตุดังนี้ @ เอหิปะถะวีพรหมา เอหิอาโปอินทรา เอหิเตโชนารายะ เอหิวาโยอิสสะรา/ คาถาตั้งแม่ธาตุใหญ่ว่าดังนี้ นะอิเพชรคงอะระหังสุคะโตภะคะวา โมติพุทธะสังอะระหังสุคะโตภะคะวา พุทปิอิสะวาสุอะระหังสุคะโตภะคะวา ธาโสมะอะอุอะระหังสุคะโตภะคะวา ยะภะอุอะมะอะระหังสุคะโตภะคะวา/ นะมะพะะธะต้องมีธาตุพระพุทธเจ้าคือธาตุพระกะระณีตั้งกํากับลงไปด้วยคือ จะภะกะสะ เพื่อเป็นพี่เลี้ยงคุมธาตุลงไปอีกทีหนึ่ง[/font] [font=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]วิธีตั้งธาตุ=พยายามจําให้ได้มีประโยชน์มากต่อผู้ที่เรียนคาถาอาคม ว่าดังนี้ ตั้งอาโปธาตุ(ธาตุนํ้า)ว่า นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ/ ตั้งปฐวีธาตุ(ธาตุดิน)ว่า นะโมพุทธายะ มะพะธะนะ ภะกะสะจะ/ ตั้งเตโชธาตุ(ธาตุไฟ)ว่า นะโมพุทธายะ พะธะนะมะ กะสะจะภะ/ ตั้งวาโยธาตุ(ธาตุลม)ว่า นะโมพุทธายะ ธะนะมะพะ สะจะภะกะ/[/font] [font=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]วิธีหนุนธาตุ= การหนุนธาตุจํายากหน่อยนะครับ แต่อย่าท้อ รักจะเรียนคาถาอาคมต้องรู้ให้จริงอย่ารู้แบบงูๆปลาๆอายเขาครับ เมื่อตั้งธาตุเป็นแล้วต้องหนุนธาตุท่านให้หนุนด้วยแก้ว4ดวง คือ นะมะอะอุ / นะคือแก้วมณีโชติ, มะคือแก้วไพทูรย์/ อะคือแก้ววิเชียน/ อุคือแก้วปัทมราช/ เมื่อตั้งอาโปธาตุให้เอาแก้วมณีหนุน/ เมื่อตั้งปฐวีธาตุให้เอาแก้วไพทูรย์หนุน/ เมื่อตั้งเตโชธาตุให้เอาแก้ววิเชียรหนุน/ เมื่อตั้งวาโยธาตุให้เอาแก้วปัทมราชหนุน/ จะทําการปลุกเสกวัตถุมงคลก็ ให้พิจารนาว่าต้องการมุ่งไปในทางด้านใด ก็ตั้งธาตุนั้น แล้วหนุนธาตุนั้นของจึงจะขลังได้ผลดีมากครับผม หลักของการใช้ธาตุ= ธาตุนํ้าใช้ทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม/ ธาตุดินใช้ทางอิทธิปาฏิหารย์ คงกระพันชาตรี/ ธาตุไฟใช้ทางเดาะกุญแจ ขับไล่ผี/ ธาตุลมใช้ทางสะกด กําบังตัว ล่องหน/ จําให้ดีนะครับว่า นะ แก้วมณีโชตินั้นคือ อาโปธาตุนํ้า/ มะ แก้วไพทูรย์นั้นคือ ปฐวีธาตุดิน/ อะ แก้ววิเชียรนั้นคือ เตโชธาตุไฟ/ อุ แก้วปัทมราชนั้นคือ วาโยธาตุลม/ [font=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เราจะปลุกเสกของให้ไปทางด้านใดก็ภาวนาตั้งธาตุหนุนธาตุดังนี้ ทางเสน่ห์ เมตตามหานิยมใช้ธาตุนํ้า (อาโปธาตุ) ภาวนาว่า นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ แล้วหนุนด้วยแก้วมณีโชติว่า นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ/ ทางคงกระพันภาวนาปฐวีธาตุ(ธาตุดิน)ว่า นะโมพุทธายะ มะพะธะนะ ภะกะสะจะ หนุนด้วยแก้วไพทูรย์ว่าต่อ มะนะนะมะ มะอะอะมะ มะอุอุมะ/ ทางเสดาะ ขับไล่ผีภาวนาเตโชธาตุ(ธาตุไฟ) ว่า นะโมพุทธายะ พะธะนะมะ กะสะจะภะ หนุนด้วยแก้ววิเชียร ว่าต่อ อะนะนะอะ อะมะมะอะ อะอุอุอะ/ ทางสะกด ล่องหน กําบังตัว ภาวนา วาโยธาตุ(ธาตุลม) ว่า นะโมพุทธายะ ธะนะมะพะ สะจะภะกะ หนุนด้วยแก้วปัทมราช ว่าต่อ อุนะนะอุ อุมะมะอุ อุอะอะอุ/ ครับค่อยๆศึกษาทีละบทอย่าใจร้อน หมั่นท่องจํา หมั่นฝึกฝน แล้วก็จะประสบความสําเร็จ ด้วยความปราถนาดีครับผม...[/font] [/font]
นึกแล้วว่าซักวัน จะต้องเจอได้พบคนที่มีดีเหมือนกับเรามาเป็นตัวแทน รู้สึกว่าเราจะแก่แล้วจริงๆ เอาไปใช้ในทางที่ถูกนะ อย่าเอาไปใช้ทำเลว ไม่อย่างนั้นวิชาถ้ามันตีกลับจะหนักกว่าปล่อยออกไปเป็น 10 เท่า จงจำไว้ จงทำดี ทำดีและทำดีอีก
ขอสอบถามเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจครับเพราะเป็นสมาชิกใหม่ สงสัยว่ากำลังของธาตุมีที่มาอย่างไร เช่น น้ำ 12 ดิน 21 ไฟ 6 ลม 7 อากาศ 10 และอีกอย่างคือ คุณพระธรรมทำไมหาร 2 แล้วรวมอากาศธาตุ แต่พระสงฆ์กลับหาร 4 แล้วจบแค่นั้น ถ้าสามารถเข้าใจได้จะสามารถตีแตกและเข้าใจได้หมดเลย. ที่จริงผมยังสงสัยที่มากำลังของวันด้วยแต่ไม่มีในกระทู้ พยายามท่องแต่พอไม่เข้าใจก็จะถามตัวเองเสมอว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ